ในช่วงฝนตกบ่อยๆ หลายคนอาจคิดว่า “ไม่ต้องล้างรถหรอก เดี๋ยวฝนตกก็เปียกอีก” ขอบอกเลยว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการล้างรถช่วงหน้าฝน เป็นสิ่งที่ควรทำเป็นพิเศษด้วยซ้ำ สาเหตุเป็นเพราะอะไรนั้น มาดูคำตอบกันค่ะ
1. ยิ่งไม่ล้าง ยิ่งสกปรก
การขับรถลุยน้ำหรือขณะฝนตกอยู่ สิ่งสกปรกหรือเศษต่างๆ จะเกาะติดได้ง่าย ถ้าปล่อยรถทิ้งไว้ไม่ทำความสะอาด คราบเหล่านั้นก็จะเกาะแน่นสะสมจนยากที่จะล้างออกได้ง่ายๆ และการล้างทำความสะอาดคราบที่แน่นๆ นั้นก็ต้องออกแรงขัดมากกว่าปกติ อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่รถจะเป็นรอยได้อีกด้วย
2. ฝนกรดทำสีรถด่าง
ฝนกรดคือฝนธรรมชาติที่รวมตัวกับมลพิษในอากาศจนเกิดเป็นกรดซัลฟิวริกหรือกรดไนตริกที่มีฤทธิ์ในการกัดกร่อนทุกอย่างที่ขวางหน้าเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและแน่นอนว่ารถก็เช่นกัน ถ้าปล่อยรถทิ้งไว้รถก็จะถูกกัดกร่อนลึกจนถึงชั้นสีผิว ทำให้สีรถด่างได้
3. เศษดินโคลนเข้าไปอุดตันรังผึ้ง
ขณะที่เราขับรถลุยไปตามที่ต่างๆ มีโอกาสที่เศษดินหรือโคลนกระเด็นเข้าไปติดรังผึ้งแอร์และหม้อน้ำ จนทำให้การระบายความร้อนของระบบแอร์และเครื่องยนต์ไม่ดีเท่าที่ควรจนอาจเกิดผลเสียได้
ดังนั้น ยิ่งเจอฝนตกมากแค่ไหน เพื่อนๆ ก็ยิ่งควรที่จะหมั่นล้างรถอยู่บ่อยๆ นะคะ อาจไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าร้านล้างรถก็ได้ สามารถล้างเองอยู่ที่บ้านกันได้เลย
ขอบคุณบทความดีๆ จาก : eTOYOTACLUB